CURMIN MOISTURIZING CREAM หรือครีมขมิ้นชัน จากแบรนด์ “Curmin” แบรนด์สกินแคร์ของ GPO หรือ องค์การเภสัชกรรม ที่หลายๆคนน่าจะคุ้นเคยกันมาเป็นเวลานาน วันนี้เบลล์มีโอกาสได้ลองใช้มอยเจอร์ไรซิ่งครีมในตำนาน ซึ่งนับเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางชิ้นแรกขององค์การเภสัชกรรม โดดเด่นด้วยส่วนผสมสารสกัดจากขมิ้นชันสมุนไพรไทย ผ่านการวิจัยและพัฒนา ผสมผสานนวัตกรรมเฉพาะขององค์การเภสัชกรรม จนได้ผลิตภัณฑ์สกินแคร์คุณภาพสูงที่มีประสิทธิภาพและความปลอดภัย ภายใต้แบรนด์มีความน่าเชื่อถือ หลังจากที่ได้ลองสัมผัสด้วยตัวเองแล้ว ก็รู้สึกว่าครีมกระปุกนี้เค้าไม่ธรรมดา ใช้แล้วเป็นยังไง ติดตามอ่านต่อได้เลยค่ะ
Author
bellyly
รีวิว ของกินไทเป 20ร้าน ในบล็อกนี้ เกิดจากจากทริปไต้หวันเมื่อปลายปีที่ผ่านมา เบลล์มีโอกาสได้ไปตะลุยกินแหลกรอบไทเป เลยขอรวบรวมของอร่อยมาทำเป็นรีวิวแบบมัดรวม พร้อมแจกลายแทงครบทุกร้าน เผื่อจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆที่กำลังแพลนไปเที่ยวไทเป ไต้หวันค่ะ
รีวิว ของกินไทเป รวม 20 ร้านอาหารไต้หวัน 2022 was last modified: January 19th, 2023 by bellyly
Oriental Princess RED Natural Whitening & Firming Phenomenon เป็นไลน์สกินแคร์ Best Seller ของแบรนด์ OP มาอย่างยาวนาน วันนี้เบลล์ได้จับคู่สกินแคร์และแป้งพัฟสุดปังจากไลน์ RED มารีวิวให้เพื่อนๆได้ชมกันค่ะ บอกเลยว่าเป็นคู่หู Duo Set ที่จะมาช่วยเสกผิวในฝัน ให้ผิวดี 24 ชั่วโมง
จุดเด่นของ Oriental Princess RED Duo Set
ด้วยเทคโนโลยีลิขสิทธิ์เฉพาะ Advanced Redsphere Complex™ นวัตกรรมส่วนผสมของสารสกัดธรรมชาติ Rosa Hybrid Flower Complex สารสกัดจากกุหลาบ 5 ชนิด และ Gold Colloid Koyamaki นวัตกรรมที่เพิ่มประสิทธิภาพสารสกัดของ Koyamaki หรือ Japanese Umbrella Pine สนร่มญี่ปุ่น โดยนำมาปรับอนุภาคให้มีขนาดเล็กลง ทำให้ซึมลงสู่ชั้นผิวได้ล้ำลึกมากขึ้น ให้ผิวกระจ่างใสตึงกระชับใน 1 สัปดาห์ ซึ่งมีการถ่ายทอดสารสกัดธรรมชาติและการบำรุงสู่ Duo Set นี้ เกิดเป็นนวัตกรรมใหม่ของการบำรุงผิว
RED Night Moisturiser ไนท์ครีม เสกผิวในฝัน และ Red Foundation Powder แป้งอัพผิวสว่างผสานสกินแคร์ เพื่อ sleep รับผิวใส wake up อัพผิวสวย ให้ผิวดี 24 ชั่วโมง
RED Natural Whitening & Firming Phenomenon Night Moisturiser
ไนท์ครีมบำรุงให้ผิวสวยอิ่มฟูเหมือนได้นอนครบ 8 ชั่วโมง ช่วยสร้างเกราะป้องกันผิวให้สุขภาพดี ล็อคความชุ่มชื้นยาวนาน 12 ชั่วโมง ให้ผิวแลดูกระจ่างใส ตึงกระชับใน 1 สัปดาห์ มีความอ่อนโยน ไม่มีสารอันตรายต่อผิว ทั้งซิลิโคน น้ำหอม สี หรือสารกันเสียต่างๆ ผิวดีชนิดที่ตื่นมาทาแป้งติดหน้าเนียนไม่เป็นขุย
ขนาด 50g. ราคา 1,295 บาท
บรรจุภัณฑ์
RED Night Moisturiser เค้ามาในกล่องสีแดงเข้มดูหรูดูแพง
เปิดมาด้านในจะเจอกับกระปุกกลมๆ ดูสวยหรูดีทีเดียวค่ะ
กระปุกเค้าจะมีฝากั้นเนื้อครีมอีกชั้น
มาพร้อมกับช้อนเล็กๆสำหรับตักเนื้อครีมขึ้นมา ช่วยรักษาความสะอาดของเนื้อครีมในกระปุกได้ดี
เนื้อสัมผัสของ RED Night Moisturiser
เนื้อครีมสีแดงอมส้มอ่อนๆ มีกลิ่นหอมๆเหมือนดอกไม้ เนื้อข้นลื่น ไม่เหนียวเหนอะหนะ ไม่มันจนเกินไป ซึมซาบไวทีเดียวค่ะ
เวลาทาไปบนผิวจะรู้สึกถึงความชุ่มชื้นซึมลงผิว และมีส่วนที่เคลือบบนผิวเบาๆ ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นได้ยาวนาน
ความรู้สึก หลังใช้ RED Night Moisturiser
หลังทาทันที จะรู้สึกผิวได้รับความชุ่มชื้นเพิ่มขึ้น ช่วยให้ผิวนุ่ม ยืดหยุ่น ไม่แห้งตึง และไม่มัน ไม่เหนอะหนะ สบายผิวในแบบที่ได้รับการบำรุงเต็มที่
เบลล์ใช้ RED Night Moisturiser เป็นขั้นตอนสุดท้ายหลังจากลงสกินแคร์ก่อนนอนตามปกติ เหมือนเค้าจะช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นได้ทั้งคืน ตื่นมาคือหน้านุ่มเลย ยังรู้สึกได้ถึงความชุ่มชื้นในผิว แต่ไม่มันเยิ้ม
หลังลองใช้ได้ประมาณ 1 สัปดาห์ เรามาดูความเปลี่ยนแปลงกันค่ะ
จากรูปจะเห็นเลยว่า ผิวดูอิ่มเอิบ ดูแน่นขึ้น รูขุมขนที่บานหนักมาก ก็ดูหุบลง ผิวโดยรวมเลยดูเรียบเนียนกระจ่างใสขึ้น ดูเหมือนได้นอนเต็มอิ่มจริงๆ ทั้งๆที่นอนไปไม่ถึง 8 ชม. แหะๆ
รีวิวฝั่งสกินเคร์กันไปแล้ว ทีนี้เรามาดูแป้งรองพื้นที่มาเป็นคู่กันบ้าง ….
RED Natural Whitening & Firming Phenomenon Foundation Powder SPF 20 PA++
นวัตกรรมใหม่ของวงการ MakeUp ที่ใส่สกินแคร์บำรุงจากญี่ปุ่น เพื่ออัพผิวสว่างกระจ่างใส พร้อมช่วยควบคุมความมันยาวนาน 12 ชั่วโมง เป็นแป้งที่ Made in Japan มั่นใจได้ในคุณภาพเลยค่ะ และทางแบรนด์ยังท้าพิสูจน์ แบบนี้เราต้องมาพิสูจน์กันค่ะ
ขนาด 13g. ราคา 635 บาท
บรรจุภัณฑ์
RED Foundation Powder มาในตลับสีแดงเข้ม ทรง Organic Form รูปทรงเหมือนก้อนหินในสวนญี่ปุ่น สวยเท่มากๆ
ตัวตลับมีสองชั้น แยกที่เก็บพัฟฟองน้ำ กับชั้นแป้งออกจากกัน ทำให้แป้งในตลับสะอาด ไม่หมักหมม แถมที่ล็อกเป็นแม่เหล็กด้วย ตลับเค้าทำดีมากๆเลยค่ะ
พัฟฟองน้ำที่ให้มา มีความหนานุ่ม จับเนื้อแป้งได้กำลังดี ไม่หนาเป็นปื้น ทำให้ทาลงบนผิวได้เรียบเนียน
Swatch สีแป้ง RED Foundation Powder
แป้งรุ่นนี้มีด้วยกันทั้งหมด 6 เฉดสี ครอบคลุม Undertone เหลืองและชมพู เข้ากับสีผิวของสาวไทยได้แน่นอนค่ะ
ดูจากตลับสีอาจจะใกล้เคียงกัน เบลล์ลองปาดบนแขนให้ดูนะคะ
พอลองบนแขนแล้วก็ยังลังเลนิดหน่อย เลยขอลองบนหน้าเพื่อเทียบสีกับช่วงกรามและคอ เพื่อความเป๊ะอีกที
ตัวเบลล์เองสีจะประมาณ NC25 จริงๆ สามารถใช้ได้ตั้งแต่ Warm Ivory / Light Beige และ Sand
ส่วน Warm Beige ในรูปเหมือนจะพอดีกับแก้ม แต่อันเดอร์โทนแป้งติดชมพู ซึ่งคอเบลล์ออกเหลืองกว่าหน้าขัดมาก ก็เลยเลือกใช้ Light Beige ค่ะ
ลองทาครึ่งหน้าให้ดูเนื้อแป้งและระดับการปกปิดนะคะ
ในรูปคือใช้แป้งเพียวๆเลย ไม่มีเบส หรือคอนซิลเลอร์ช่วยเลยนะคะ จะเห็นว่าเนื้อแป้งเป็นแบบเมทท์ ไม่มีวิ๊ง และให้ระดับการปกปิดกลางๆ แต่สามารถบิลท์ทับ เพื่อเพิ่มระดับการปกปิดได้ อย่างบริเวณใต้ตาคล้ำๆ เบลล์ก็ใช้แค่แป้ง RED Foundation Powder ตบๆกดๆย้ำๆ รอยคล้ำใต้ตาก็ดูจางลงมาก พวกจุดด่างดำก็ดูเบลอลง บางจุดที่บางๆก็กลบได้มิดนะคะ เบลล์ว่าแป้งตัวนี้ก็คือเหมาะที่จะใช้ได้ทุกวัน วันไหนอยากจะสบายๆผิว ก็ทาบางๆ วันไหนต้องการการปกปิดก็เพียงแค่ทาทับ โดยที่ดูไม่หนาเตอะด้วย เนื้อแป้งเค้าบางเบา สบายผิวดีเลยล่ะค่ะ
เมื่อแต่งหน้าเสร็จ จะได้ Look ประมาณนี้…
ความรู้สึกจากการลองใช้แป้ง RED Foundation Powder
เป็นแป้งผสมรองพื้นที่เนื้อบางเบา แต่แนบไปกับผิวดี สามารถเพิ่มระดับการปกปิดได้ดี
สีไม่ดรอป ไม่หมองระหว่างวัน คุมความมันได้นาน
เบลล์ได้ลองเก็บภาพหลังแต่งหน้าไปแล้ว 8 ชั่วโมง มาให้ชมกันค่ะ
หลังแต่งหน้า 8 ชั่วโมง
ปกติเบลล์เป็นคนผิวผสม ส่วนที่มีความมัน จะเริ่มๆเยิ้มในชั่วโมงที่6 แต่สำหรับแป้ง RED Foundation Powder ตลับนี้ กว่าผิวจะเริ่มดูมันมากๆ ก็คือเลย 8 ชั่วโมงไปแล้ว (ระยะเวลาขึ้นกับสภาพอากาศและสภาพผิวแต่ละคนด้วยนะคะ) วันที่ถ่ายรูปคือนั่งทำงานที่บ้าน แต่ไม่ได้เปิดแอร์ อากาศร้อนนิดหน่อยพร้อมกับความเครียดจากการประชุม หน้าเลยอาจจะมันไวขึ้นกว่าปกติ แต่แม้ว่าในช่วงที่ผิวจะเริ่มมัน เห็นความวาวที่หน้าแก้มชัด แต่แป้งก็ยังไม่หลุดเป็นคราบไหลแต่อย่างใด เพียงแค่ซับความมันออก ผิวก็กลับผ่อง ดูแมทท์เหมือนเพิ่งแต่งหน้าเลยค่ะ แป้งตลับนี้ตอบโจทย์เบลล์มากๆ ปกปิดดี ติดทน แถมยังมีสารบำรุงผิวใส่เข้ามาด้วย เหมือนผิวเราได้รับการดูแลตลอดเวลาจริงๆ
สำหรับเพื่อนๆที่สนใจ สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
- Website : https://www.orientalprincess.com/
- Facebook : https://www.facebook.com/orientalprincesssociety
สามารถหาซื้อได้จากช่องทางต่างๆตามนี้เลยค่ะ
- ร้าน Oriental Princess ทุกสาขา
- Oriental Princess Online Shop : https://www.orientalprincess.com/
- Shopee
- Lazada
และสำหรับใครที่อยากรู้สภาพผิวว่าผิวเราเป็นยังไง สามารถเข้าไปตรวจผิวได้ที่link นี้เลยค่ะ https://www.orientalprincess.com/beauty-intelligence
#ผิวดี24ชั่วโมง #OrientalPrincess
รีวิว Oriental Princess RED ไนท์ครีมและแป้งผสมรองพื้น เสกผิวในฝัน ให้ผิวดี 24 ชั่วโมง was last modified: November 15th, 2021 by bellyly
FOREO BEAR ™ เครื่องทรีทเมนต์ช่วยยกกระชับผิวหน้าและลำคอ ด้วยคลื่นไฟฟ้า Microcurrent ใหม่ล่าสุดจากแบรนด์ FOREO ซึ่งกำลังจะวางขายในไทยช่วงกลางเดือน กค. นี้ เบลล์เองได้ลองใช้มาพักใหญ่แล้ว เลยขอหยิบมาทำรีวิวให้ชมกันค่ะ
REVIEW FOREO BEAR รีวิวเครื่องยกกระชับผิว หน้าเรียวเหมือนไปคลินิก was last modified: July 30th, 2021 by bellyly
No7 Line Correcting Booster Serum เป็นเซรั่มเนื้อบางเบาที่เคลมว่าช่วยจัดการริ้วรอยแห่งวัยได้อย่างตรงจุด และมียอดขายสุดปัง 1หลอดทุกๆ7วินาที* ตัวเบลล์เองก็เข้าสู่วัยที่เริ่มมีปัญหาเรื่องริ้วรอย ก็ได้เริ่มมองหาผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่จะมาช่วยแก้ปัญหานี้ มาเจอกับเซรั่มขวดนี้ของแบรนด์ No7 มีความน่าสนใจมากๆ และเบลล์ก็มีโอกาสได้ลองใช้แล้ว จะเป็นอย่างไร ติดตามอ่านในรีวิวฉบับเต็มได้เลยค่ะ
No7 Line Correcting Booster Serum จัดการริ้วรอยตรงจุด สวยจบแบบไม่เจ็บ was last modified: April 1st, 2021 by bellyly
B for BeautyLifestyle and Gadget ReviewSkincare Review รีวิวสกินแคร์ และการบำรุงผิวSpa and Treatment Review รีวิวสปาและการดูแลผิวจากสถาบันความงาม
REVIEW FOREO IRIS เครื่องนวดรอบดวงตา และ SERUM SERUM SERUM เซรั่มฉ่ำโกลว์จากFOREO
FOREO IRIS ILLUMINATING EYE MASSAGER เครื่องนวดผิวรอบดวงตา Gadgetใหม่ที่เบลล์เพิ่งได้ลองใช้มาแบบสดๆร้อนๆ ลองแล้วก็รู้สึกว่ามันแอบเวิร์คนะ เลยหยิบมาทำรีวิวให้ชมกันค่ะ
REVIEW FOREO IRIS เครื่องนวดรอบดวงตา และ SERUM SERUM SERUM เซรั่มฉ่ำโกลว์จากFOREO was last modified: March 19th, 2021 by bellyly
เบลล์ทำตาสองหมอรวงข้าว Lovely Eye and Skin Clinic (ทำโดยทีมแพทย์) มาจะสิบเดือนได้แล้ว ตาเข้าที่มากๆแล้วค่ะ มาวันนี้ ก็ขอรวบยอดทำรีวิวเต็มๆให้ชมกันนะคะ ไปชมกันเลยค่ะ
รีวิว ทำตาสองชั้นหมอรวงข้าว Lovely Eye and Skin Clinic (ทีมแพทย์หมอรวงข้าว) was last modified: March 4th, 2021 by bellyly
ในยุคที่อากาศเต็มไปด้วยมลพิษและละอองฝุ่นขนาดใหญ่ไปจนถึงฝุ่นละออง 2.5 หรือที่เรียกติดปากกันว่า PM2.5 ซึ่งเป็นอันตรายกับร่างกายเรา เครื่องฟอกอากาศจึงกลายเป็นสิ่งจำเป็นที่ควรมีติดบ้าน ในท้องตลาดตอนนี้มีเครื่องฟอกอากาศ PM2.5 ให้เลือกซื้อหลากหลายแบรนด์ในหลายระดับราคา วันนี้เบลล์จะมารีวิวเครื่องฟอกอากาศรุ่นนึงที่ได้ลองใช้แล้วรู้สึกชอบ และคิดว่าเหมาะกับ lifestyle คนในปัจจุบัน ที่อาศัยอยู่ในคอนโด หรืออพาร์ทเมนต์เล็กๆ เป็นเครื่องฟอกอากาศที่มีดีไซน์สวยงาม มาพร้อมกับประสิทธิภาพการฟอกอากาศที่ทำได้ดีเกินราคา ซึ่งก็คือ เครื่องฟอกอากาศPhilips Air Purifier AC0820 เครื่องนี้ นี่เอง…
ทำไมถึงเลือก เครื่องฟอกอากาศPhilips Air Purifier AC0820
นอกเหนือจากดีไซน์ที่สวยงาม และราคาสมเหตุสมผล ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เบลล์เลือก Phillips AC0820 ก็คือ
- Technology VitaShield IPS ที่ผ่านการทดสอบจากสถาบัน IUTA ประเทศเยอรมนี ว่าสามารถกรองฝุ่นละอองขนาดเล็กได้ถึง 0.003 ไมครอน หรือเทียบเท่ากับ 3 นาโนเมตร และกรองได้เล็กกว่าขนาดฝุ่น PM2.5 ถึง 800 เท่า และเครื่องฟอกอากาศรุ่นนี้ไม่ใช้ระบบการกรองแบบมีประจุไฟฟ้า เป็นการกรองด้วยระบบแผ่นกรองล้วน ไม่ทำให้เกิดก๊าซโอโซน จึงปลอดภัยกับเด็กและผู้สูงอายุ
- ค่า CADR มีความเหมาะสมกับขนาดห้อง 16-49 ตรม. ค่า CADR คือ อัตราการส่งผ่านอากาศบริสุทธ์ เป็นค่าที่บอกประสิทธิภาพการฟอกอากาศที่แท้จริง ได้มาจากการนำไปทดสอบในห้องปฏิบัติการกับ ควันบุหรี่ (Smoke), ฝุ่น (Dust) และ เกสรดอกไม้ (Pollen) มีหน่วยเป็นลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง (m3/hr) หากเครื่องฟอกอากาศเครื่องใดมีค่า CADR สูงกว่า จะให้ประสิทธิภาพในการฟอกอากาศสูงกว่า สำหรับเครื่องฟอกอากาศรุ่นนี้ มีค่า CADR 190 ลูกบาศ์กเมตรต่อชั่วโมง นั้นจะครอบคลุมขนาดห้องสูงสุด 49 ตร.ม. (ขนาดห้องนี้คำนวณตามมาตรฐาน NRCC-54013 ประเทศแคนาดา) แต่หากคำนวณตามมาตรฐาน AHAM ของประเทศสหรัฐอเมริกา จะแนะนำที่ขนาดห้องสูงสุด 16 ตร.ม. ในส่วนของห้องที่เบลล์อยู่ มีขนาดประมาณ 20 ตรม. (ห้องนอนรวมส่วนนั่งเล่น) ซึ่งไม่ได้อยู่ในโซนที่ฝุ่นมากนักเลยขอยึดตามมาตรฐานแคนาดา ซึ่งก็ยังอยู่ในขอบเขตความสามารถของเครื่องฟอกอากาศรุ่นนี้ค่ะ
- ผ่านการรับรองจากสถาบันชั้นนำ อย่างสถาบันวิจัยโรคภูมิแพ้แห่งยุโรป ECARF ให้การรับรองว่าสามารถกำจัดสารก่อภูมิแพ้ได้ถึง 99.97% และ ผ่านการทดสอบจากสถาบัน Airmid ประเทศไอร์แลนด์ ว่าสามารถกําจัดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เอ ไวรัส H1N1 และแบคทีเรียได้ถึง 99.9%
- มั่นใจในบริการหลังการขาย เครื่องฟอกอากาศฟิลิปส์รับประกันนาน 2 ปี หากมีปัญหาก็สามารถนำไปเข้าศูนย์บริการใกล้บ้านได้ทันที ส่วนแผ่นกรองก็สามารถหาซื้อได้ง่าย ที่ศูนย์บริการทุกสาขา และ เวปไซต์ Powerbuy.co.th
เลือกรุ่นได้แล้ว งั้นมาเปิดกล่องกันเลยนะคะ
เปิดจากกล่องน้ำตาลออกมาจะเจอกับกล่องสี่เหลี่ยมสีฟ้าๆแบบนี้
เปิดฝากล่องกันเลยจ้า
เมื่อเปิดออกมาก็จะเจอกับกราฟฟิคที่ฝากล่องด้านใน เป็นวิธีการใชังานแบบรูปภาพ เค้าทำไว้ค่อนข้างละเอียดเลยนะคะ ไม่ต้องอ่านคู่มือก็เข้าใจได้ง่าย ดูจากภาพก็เริ่มใช้งานได้ทันที
เปิดฝาชั้นต่อมาก็จะเจอกับซองคู่มือ ใบประกันสินค้า และที่กันกระแทกประคองตัวเครื่องไว้ด้านใน
และมีแผ่นพับบอกให้เราทราบว่า ตอนนี้เราสามารถลงทะเบียนสินค้าออนไลน์ได้แล้วนะ สบายสุดๆ
เมื่อดึงตัวกันกระแทกออกมาก็จะเจอกับเครื่องฟอกอากาศPhillips รอเราอยู่ข้างในแบบนี้
มีแถบกระดาษสีเหลืองติดอยู่ที่ตะแกรงด้านบน
แถบกระดาษนี้เป็นเหมือนป้ายเตือนให้เราไม่ลืมที่จะถอดถุงพลาสติกหุ้มไส้กรองออกก่อนเปิดใช้งาน เมื่อทราบแล้วก็ดึงป้ายออกได้จ้า ว่าแล้วก็ยกเครื่องออกมาได้เลย
ที่เครื่องจะมีป้ายกระดาษแข็งห้อยติดอยู่ ตัวป้ายจะเป็นข้อมูลแสดงความหมายของสีไฟบนหน้าปัดของเครื่อง สีอะไรหมายถึงอะไร
และยังมีข้อมูลวิธีการทำความสะอาดไส้กรองติดมาให้ด้วย จัดว่าดี ทำให้เราไม่ลืมที่จะเปิดเอาไส้กรองมาทำความสะอาด หรือใครไม่ชอบห้อยป้ายไว้ เอาออกก็ได้นะคะ เค้าแค่คล้องเชือกไว้เฉยๆค่ะ
นอกเหนือจากตัวเครื่องฟอกแล้ว ในกล่องก็ยังมีกล่องย่อยสีขาวใบเล็กๆ ใส่อแดปเตอร์และสายไฟแบบนี้ให้มาด้วยค่ะ
ดีไซน์ตัวเครื่องฟอกอากาศPhillips Air Purifier AC0820
แกะกล่องกันเรียบร้อยแล้ว มาดูรูปร่างหน้าตาของ เครื่องฟอกอากาศฟิลิปส์ AC0820 กันค่ะ
เครื่องเป็นทรงกระบอกมีความสอบเอียงเล็กน้อย มีรูรอบด้าน ตัวเครื่องพลาสติกสีขาวด้าน ดูสะอาดตา มาพร้อมกับตะแกรงและหน้าปัดด้านบนสีดำเงา ตรงกลางเป็นปุ่มกดระบบสัมผัส เพียงแต่แตะเบาๆก็เปลี่ยนโหมดการทำงานได้ทันที และมีไฟledแสดงผลคุณภาพอากาศแบบ realtime
ความสวยแบบเรียบง่ายนี้มาในขนาดเล็กกระทัดรัด ความสูง 36.7cm เล็กพอที่จะวางบนโต๊ะหัวเตียง หรือมุมโต๊ะทำงานได้สบายๆ ทั้งความสวยและขนาดไม่เทอะทะของเครื่องฟอกอากาศPhillips รุ่นนี้ ทำให้สามารถนำไปวางในห้องหลายหลายรูปแบบได้อย่างกลมกลืน
ด้านหลังตัวเครื่องจะมีฝาปิดเซ็นเซอร์วัดสภาพอากาศอยู่ช่วงกลางเครื่อง
ด้านล่างจะเป็นสวิทช์เปิดปิดและช่องเสียบสายอแดปเตอร์
เมื่อพลิกเครื่องคว่ำลงจะเจอกับฝาปิดช่องใส่ไส้กรอง
การเปิดปิดก็ง่ายๆ เพียงใช้มือบิดตามลูกศรบนขอบฝา ไม่ต้องออกแรงเยอะก็เปิดปิดได้อย่างง่ายดาย
โดยรวม เบลล์คิดว่าเครื่องฟอกอากาศรุ่นนี้ออกแบบมาได้สวยงาม ด้วยความเรียบง่ายนี้ น่าจะถูกใจใครหลายๆคน โดยเฉพาะสาย minimal อย่างเรา
วิธีใช้งาน
ในการใช้งานครั้งแรก เราต้องเปิดฝาช่องใส่แผ่นกรอง หยิบแผ่นกรองออกมา ตัดถุงพลาสติกออก แล้วใส่ไส้กรองกลับเข้าไป
ปิดฝาให้เรียบร้อย เสียบสายไฟ เปิดสวิทช์ก็พร้อมใช้งานแล้วค่ะ
เมื่อเปิดสวิทช์ ไฟled จะเปลี่ยนสีไปมาจนหยุดค้างที่สีใดสีหนึ่ง แสดงถึงคุณภาพอากาศในห้อง ณ ขณะนั้น
- สีน้ำเงิน แปลว่า คุณภาพอากาศดี
- สีม่วง แปลว่า คุณภาพอากาศปลานกลาง
- สีชมพู แปลว่าคุณภาพอากาศไม่ดี
- สีแดง แปลว่าคุณภาพอากาศไม่ดีเป็นอย่างมาก
ด้วยเทคโนโลยี AeraSense เมื่อปริมาณฝุ่นในห้องสูงขึ้น พัดลมในเครื่องจะถูกปรับให้แรงขึ้นอัตโนมัติ และด้วยระบบหมุนเวียนอากาศแบบ 3 มิติ สามารถฟอกอากาศห้องขนาด 20 ตร.ม. ของคุณได้ในเวลาเพียง 16 นาที ตรงนี้อยากบอกว่าเซนเซอร์เค้าไวมากจริงๆนะคะ จากที่ทดลองใช้มา แค่เราฉีดสเปรย์ใส่ผม อยู่ห่างๆตัวเครื่องประมาณ 2เมตร ผ่านไปไม่ถึง10วิ เครื่องจับได้เลยว่ามีละอองในอากาศมากขึ้น เครื่องปรับพัดลมให้แรงขึ้นทันที ประทับใจจุดนี้มากจริงๆค่ะ ทั้งนี้เราสามารถสัมผัสปุ่มด้านบนเพื่อสลับเข้าSleep Mode ในโหมดนี้ไฟแสดงผลจะหรี่ลง และเครื่องฟอกอากาศจะทำงานอย่างเงียบที่สุดเพื่อทำความสะอาดอากาศในขณะที่เรานอนหลับ โดยเงียบเพียง 35db(A) โหมดนี้เหมาะสมสำหรับใช้ในห้องนอนหรือห้องเด็กทารก หรือแม้แต่ตอนที่เราต้องการสมาธิมากๆในห้องทำงาน
เบลล์ชอบโหมดนี้มากๆ เค้าทำงานเบามากจริงๆ นอนหลับสบาย ไม่ได้ยินเสียงมอเตอร์หรือพัดลมใดๆเลยค่ะ เงียบจนลืมไปว่าเครื่องยังเปิดอยู่ ยกนิ้วให้เลยจ้า
วิธีทำความสะอาดเซนเซอร์
เมื่อเราใช้เครื่องไปนานๆ ก็จะต้องมีการทำความสะอาดทั้งตัวเซนเซอร์และแผ่นกรอง เพื่อให้เครื่องฟอกอากาศทำงานได้เต็มประสิทธิภาพเหมือนใหม่
วิธีทำความสะอาดเซ็นเซอร์นั้นง่ายมาก เริ่มจากใช้แปรงเล็กๆปัดฝุ่นด้านนอกฝาออกก่อน แล้วเปิดฝาออกมาจะเจอกับช่องสีดำๆ ให้ใช้คอทตอนบัทเช็ดเบาๆจนสะอาด แล้วปิดฝากลับไปเหมือนเดิม
วิธีทำความสะอาดแผ่นกรอง
เมื่อใช้ไปนานๆ จะมีฝุ่นเกาะอยู่ที่แผ่นกรอง ในเบื้องต้นเราสามารถถอดแผ่นกรองออกมาทำความสะอาดได้เอง โดยการเช็ดหรือใช้เครื่องดูดฝุ่นทำความสะอาดที่ผิวแผ่นกรองได้เลย
และเมื่อใช้จนแผ่นกรองหมดอายุ จะมีสัญลักษณ์รูปทรงกระบอกสีแดงขึ้นเตือนที่หน้าปัด ให้เตรียมซื้อแผ่นกรองใหม่มาเปลี่ยน เมื่อเปลี่ยนแล้วให้กดปุ่มด้านบน ค้าง 3วินาที เพื่อ reset การนับอายุแผ่นกรอง ง่ายๆเท่านี้เลยค่ะ
ก่อน-หลัง ใช้งาน
เบลล์ได้ทดลองใช้เครื่องฟอกอากาศPhilips Air Purifier AC0820 มาเป็นเวลา 1 อาทิตย์เต็มๆ เปิดเฉพาะช่วงที่อยู่บ้านคือ ช่วงเย็นถึงเช้า และเสาร์อาทิตย์เต็มวัน รู้สึกว่าหายใจสะดวก ไม่คันจมูก นอนหลับสบาย ตื่นมาไม่คันคอ โอเคมากๆเลยค่ะ แต่จะอธิบายเพียงความรู้สึกอาจจะยังไม่พอ มาดูฝุ่นที่แผ่นกรองกันชัดๆเลยดีกว่า ว่า 7 วันผ่านไป เครื่องนี้สามารถดักจับฝุ่นได้เยอะขนาดไหน…
มองเผินๆเหมือนไม่มีอะไร แต่พอเอาไปส่องกับแสงชัดๆ โอ้โห… ฝุ่นเพียบเลยค่ะ รีบเอาเครื่องดูดฝุ่นมาดูดเก็บเลยจ้า
สรุป
เครื่องฟอกอากาศPhilips Air Purifier AC0820 เป็นเครื่องฟอกอากาศเครื่องเล็กๆ ดีไซน์สวยงาม เรียบง่าย เข้าได้กับห้องได้หลายสไตล์ ใช้งานง่าย มาพร้อมเซ็นเซอร์วัดคุณภาพอากาศ และเครื่องมีการปรับกำลังลมตามคุณภาพที่เซ็นเวอร์วัดได้ในทันที แถมยังมีโหมดการทำงานแบบเงียบไม่รบกวนเวลานอนอีกด้วย
ทั้งนี้ จุดเด่นสำคัญที่ทำให้ตัดสินใจเลือกใช้เครื่องฟอกอากาศPhilips Air Purifier AC0820 ก็คือ
- Technology VitaShield IPS กรองฝุ่นได้ละเอียดถึง 0.003 ไมครอน ซึ่งเล็กกว่า PM 2.5 ถึง 800 เท่า รวมถึงสารก่อภูมิแพ้และไวรัสเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เอ ไวรัส H1N1 และแบคทีเรียได้ถึง 99.9%
- CADR 190 เหมาะกับห้องขนาด 16-49 ตารางเมตร อย่างห้องนอน ห้องนั่งเล่น ในบ้านพักอาศัยหรือคอนโดขนาด Studio หรือ One Bed
- ความน่าเชื่อถือและบริการหลังการขาย มี Worldwide Guarantee และเครื่องฟอกอากาศฟิลิปส์รับประกันนาน 2 ปี
เบลล์ว่า เครื่องฟอกอากาศ Philips Air Purifier AC0820 รุ่นนี้สอบผ่าน เอาใจคนวัยเราไปแบบเต็มๆ ใครที่กำลังมองหา เครื่องฟอกอากาศขนาดเล็ก ราคาไม่แรงไว้ใช้สักเครื่อง ลองดูรุ่นนี้เป็นอีกตัวเลือกนะคะ
สำหรับเพื่อนๆที่สนใจสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้จากช่องทางต่างๆตามนี้ค่ะ
Facebook: https://www.facebook.com/PhilipsThailand/
Instagram: https://www.instagram.com/philipsthailand/?hl=en
Youtube link: https://www.youtube.com/channel/UCV6oUquhQAKA53Q4NiY1sdg
Website: https://www.philips.co.th/c-p/AC0820_20/series-800-air-purifier
และสามารถหาซื้อได้แล้วในราคาเพียง 5,990 บาท ที่ Philips Official Store ใน Lazada, Shopee, Central Online, Powerbuy.co.th, Robinson Online, Homepro และห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป
สำหรับรีวิวนี้ก็คงจบเพียงเท่านี้ ใครที่สนใจอ่านรีวิว Gadget อื่นๆสามารถติดตามอ่านได้ที่ link นี้ค่ะ
เจอกันใหม่รีวิวหน้านะคะ บายๆค่า
รีวิว เครื่องฟอกอากาศPhilips Air Purifier AC0820 was last modified: March 3rd, 2020 by bellyly
วันนี้เบลล์มีมาร์คสูตรใหม่จาก Kiehl’s มาแนะนำให้รู้จักกันค่ะ เป็นมาร์คหน้าชุ่มชื้น Kiehl’s Avocado Nourishing Hydration Mask ที่ชูคุณประโยชน์จาก Superfood อย่างผล Avocado นำมาใส่ไว้ในมาร์คสีเขียวเนื้อเข้มข้น เพื่อฟื้นบำรุงผิว ช่วยคืนความสดชื่น มีชีวิตชีวา เติมความชุ่มชื้นให้ผิวอย่างเต็มเปี่ยม
Avocado เป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยสารอาหาร สารต้านอนุมูลอิสระ วิตามินและแร่ธาตุนานาชนิด ให้ประโยชน์ทั้งทางด้านสุขภาพและด้านความงามการดูแลผิวพรรณ ในเชิงสุขภาพอโวคาโดเป็นผลไม้ที่มีไขมันสูงแต่เป็นไขมันชนิดที่ดี สามารถทานเพื่อลดน้ำหนักลดไขมันในเลือดได้ ส่วนในเชิงความงาม สาวๆนิยมใช้อโวคาโดนำมาบำรุงผิวโดยการทำเป็นมาร์คสด พอกบำรุงให้ความชุ่มชื้นเปล่งปลั่ง เหมาะกับทุกสภาพผิว หรือสกัดเป็นน้ำมัน จะมีคุณสมบัติซึมลงผิวได้ดี ใช้บำรุงผิว หรือชะโลมหนังศีรษะช่วยเร่งการงอกของเส้นผม บำรุงเส้นผมให้ความชุ่มชื้นและเงางามได้อย่างดี
คุณสมบัติและจุดเด่น
จริงๆแล้วสาวๆสามารถทำมาร์คอโวคาโดได้เองที่บ้าน แต่อาจจะต้องใช้เวลา ผ่านกรรมวิธีและการสรรหาวัตถุดิบที่มีคุณภาพ แต่จะดีกว่าไหม ถ้ามีมาร์คอโวคาโดแบบพร้อมใช้ แค่เปิดกระปุกก็ใช้งานได้เลย อย่างมาร์คตัวใหม่ของ Kiehl’s ตัวนี้ เป็นมาร์คอโวคาโดแบบพร้อมใช้ ให้ความสะดวกกับสาวๆ แถมยังมีประสิทธิภาพการบำรุงและดูแลสภาพผิวหน้าที่เหนือกว่าการใช้มาร์คให้ความชุ่มชื้นจากตัวอโวคาโดเพียวๆมากทีเดียว ช่วยฟื้นบำรุงผิว ช่วยคืนความสดชื่น เปล่งปลั่งมีชีวิตชีวาสู่ผิวในไม่กี่นาที
ส่วนประกอบหลัก
- สารสกัดจากผลอโวคาโด (Avocado Fruit Extract)คีลส์ใช้สารสกัดเข้มข้นจากเนื้อของผลอโวคาโดที่ปลูกในสหรัฐอเมริกา ผิวได้รับการฟื้นบำรุงให้กลับมาดูมีชีวิตชีวาเนื่องจากสารสกัดเข้มข้นจากอโวคาโดที่คีลส์ใช้มีสารที่ละลายได้ดีในไขมันอยู่ในปริมาณสูง สารที่ละลายได้ดีในไขมันเหล่านี้มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนกระบวนการเสริมความชุ่มชื้นตามธรรมชาติของผิว รวมถึงช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ในระดับพื้นหน้าของผิวเพื่อให้ผิวแลดูมีสุขภาพดี สารสกัดนี้ได้มาจากการบดเนื้ออโวคาโด ก่อนนำไปผ่านระบบกรองอันซับซ้อน แล้วผสมเข้ากับสควาเลน (Squalane) จากมะกอกซึ่งเป็นมิตรกับผิว อันเป็นส่วนผสมโปรดของคีลส์
- น้ำมันอโวคาโด (Avocado Oil)
น้ำมันอโวคาโดซึ่งผ่านกระบวนการสกัดและกลั่น ที่คีลส์ใช้ในสูตรผสมนี้ได้มาจากอิตาลีและสเปน ส่วนผสมบำรุงผิวชนิดนี้เป็นแหล่งกรดไขมันจำเป็นชนิดไม่อิ่มตัวชั้นดี รวมถึงกรดไขมันกลุ่มโอเมก้า (omega) ที่ทรงประสิทธิภาพในการบำรุงผิว ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวอย่างล้ำลึก** พร้อมเสริมการทำงานของปราการคุ้มกันผิว - น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส (Evening Primrose Oil) คณะผู้คิดค้นและพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์ของคีลส์เลือกใช้น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรสที่มีแหล่งกำเนิดในยุโรปเป็นหลัก และสามารถสกัดน้ำมันล้ำค่านี้จากเมล็ดด้วยวิธีหีบเย็น (cold pressing) ดอกไม้สีเหลืองกลิ่นหอมนี้เป็นแหล่งกรดไขมันไม่อิ่มตัวชั้นดีโดยธรรมชาติ กรดไขมันไม่อิ่มตัวจากเมล็ดดอกอีฟนิ่งพริมโรสมีบทบาทสำคัญในการทำให้สูตรผสมนี้ช่วยฟื้นบำรุงผิว
Kiehl’s Avocado Mask เหมาะกับใคร
มาร์คตัวนี้เน้นให้ความชุ่มชื้นกับผิว ไม่ใช่แค่สาวผิวแห้งเท่านั้น แต่สามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิว ไม่ว่าจะผิวผสม ผิวธรรมดา หรือผิวมันก็สามารถใช้ได้ค่ะ
ร้อยละ 91.7* ของอาสาสมัครที่ทดลองใช้ผลิตภัณฑ์นี้รู้สึกว่าผิวเรียบเนียนขึ้นทันทีหลังมาร์คหน้าเพียง 15 นาที และปราการผิวแข็งแรงขึ้นหลังมาร์คเพียง 1 ชั่วโมง
บรรจุภัณฑ์
เป็นกระปุกพลาสติกทรงกลมตามสไตล์ของ Kiehl’s ตัวกระปุกเป็นสีเขียวสดใส สีเหมือนเนื้ออโวคาโดเลยล่ะ มีฝาเกลียวปิดสนิท เปิดใช้งานง่าย ปากกระปุกกว้างทำให้ตัดเนื้อมาร์คออกมาใช้ได้สะดวก
เนื้อสัมผัสของ Kiehl’s Avocado Mask มาร์คหน้าชุ่มชื้น
เนื้อมาร์คแนวใหม่ ให้สัมผัสเนียนนุ่ม นวลเนียนเหมือนครีมที่มาจากเนื้อของอโวคาโด เมื่อพอกลงบนผิว สามารถสัมผัสได้ถึงความเข้มข้นของเนื้อผลิตภัณฑ์ ให้ทั้งความรู้สึกสบายและความหรูหราในเวลาเดียวกัน
วิธีใช้
- ตักมาร์คออกมาพอประมาณ
- วอร์มเนื้อมาร์คให้อุ่น โดยคลึงระหว่างนิ้วมือทั้งสองข้าง
- พอกลงบนผิว เริ่มจากส่วนล่างของใบหน้าขึ้นไปด้านบน เว้นรอบดวงตา
- ทิ้งไว้ 15 นาที
- ล้างออกด้วยน้ำสะอาด โดยลูบเป็นวงกลม
- ซับหน้าให้แห้ง
- สามารถบำรุงผิวรอบดวงตาต่อได้ตามปกติ
ขนาดและราคา
แบบกระปุกขนาด100 ml. ราคา 1,600 บาท
เทียบคุณภาพและปริมาณเนื้อมาร์คที่ได้ เบลล์ว่าราคานี้ไม่แพงเลยค่ะ
เพื่อนๆที่สนใจสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม และสั่งซื้อได้ที่ Onine Official Shop ของ Kiehl’s เลยจ้า แอบกระซิบว่าซื้อของจากเว็บนี้มั่นใจได้เลยว่าเป็นของแท้ 100% พร้อมรับสิทธิพิเศษมากมาย เช่น ส่วนลด10%สำหรับการสั่งซื้อครั้งแรก แถมยังจัดส่งฟรีด้วย หรือจะเป็น Online Exclusive Offers อื่นๆ อย่างของขวัญที่จะแถมมากับการสั่งซื้อของในหมวดที่กำหนด หรือรับของขวัญเพิ่มเติมเมื่อซื้อถึงยอดต่างๆ แถมยังมีโปรร่วมกับบัตรเครดิตด้วย เรียกได้ว่า มีแต่คุ้มกับคุ้ม นั่งช๊อปอยู่บ้านสวยๆ แค่คลิกแล้วรอไม่นาน Kiehl’s ในดวงใจก็มาส่งถึงบ้านเลยจ้า รู้แบบนี้แล้ว ไม่แวะเข้าไปช๊อปจะไหวหรอ อ่ะ ไปจ้า…. https://www.kiehls.co.th/avocado-nourishing-hydration-mask.html
บล๊อกนี้เรามายั่วกันแค่นี้ก่อน ไว้มีสกินแคร์อะไรออกใหม่น่าสนใจ จะหยิบมาโพสต์ให้ดูกันอีกนะคะ วันนี้ต้องขอตัวไปช๊อปบ้างแล้ว บายจ้า 🙂
Kiehl’s Avocado Mask มาร์คหน้าชุ่มชื้น สูตรใหม่ เพื่อผิวหน้าชุ่มชื้นอย่างเต็มเปี่ยม was last modified: December 18th, 2019 by bellyly
สวัสดีค่ะ วันนี้เบลล์จะมารีวิวกันแดดและ Sleeping Mask ตัวเด็ดจากแบรนด์ Rene Skincare ให้ชมกันค่ะ หลายๆคนอาจจะคุ้นๆหรือเคยรู้จักแบรนด์นี้มาบ้าง เมื่อไม่นานมานี้เบลล์เพิ่งมีโอกาสได้ลองใช้ทั้งสองขิ้นอย่างจริงจัง พอได้ลองแล้วก็รู้สึกว่า เฮ้ย! มันใช้ดีนี่หน่า ทำไมเราไม่ลองมาตั้งนานแล้ว… ถ้าสาวๆอยากรู้ว่า Rene’ เค้าใช้ดียังไง ตามมาเลยจ้า
REVIEW รีวิว Rene’ Skincare Diamond UV protector และ Sleeping Mask Creme was last modified: August 19th, 2019 by bellyly